บันทึกข้อตกลงการใช้งานระบบจัดการใบสมัครงาน JOBCAN Recruitment

(JOBCAN Recruitment Agreement)

การใช้งานระบบจัดการใบสมัครงาน JOBCAN Recruitment (ซึ่งต่อไปเรียกว่า “JOBCAN Recruitment”) โดยบริหารและพัฒนาระบบโดย บริษัท จ็อบแคน (ประเทศไทย) จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”)

บันทึกข้อตกลงการใช้งานระบบจัดการใบสมัครงาน JOBCAN Recruitment ฉบับนี้เป็นบันทึกข้อตกลงทั่วไป (ซึ่งต่อไปเรียกว่า “ข้อตกลง”) และผู้ใช้งานมีความประสงค์ใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับ JOBCAN Recruitment ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

ข้อ 1. คำนิยาม

คำนิยามของคำศัพท์ที่ใช้ในข้อตกลงฉบับนี้มีดังต่อไปนี้

  1. “ผู้ใช้งาน” หมายถึง ผู้ที่ทำการสมัครและใช้งานระบบ JOBCAN Recruitment ภายหลังจากการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขแห่งข้อตกลงนี้และได้รับอนุญาตให้ใช้งานระบบจากบริษัท
  2. “ข้อมูลผู้ใช้งาน” หมายถึง ข้อมูลที่ผู้ใช้งานกรอกและบันทึกไว้ในระบบซึ่งถูกจัดเก็บ บันทึกและถูกดูแลที่เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทและ/หรือในระบบ JOBCAN Recruitment โดยการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้งานเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
  3. “บริษัท” หมายถึง บริษัท จ็อบแคน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแล บริหารจัดการระบบ JOBCAN Recruitment ในประเทศไทย
  4. “เอกสารและคู่มือที่เกี่ยวข้อง” หมายถึง คู่มือการใช้ออนไลน์ เอกสารประกอบ และสื่อความช่วยเหลือใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานระบบ JOBCAN Recruitment
  5. “JOBCAN Recruitment” หมายถึง เว็บไซต์ซึ่งประกอบด้วย คำสั่ง สคริปต์ใดๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานสำหรับการคัดสรรพนักงานตามคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานต้องการเพื่อพิจารณาเข้าทำงานในองค์กร ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดการสัมภาษณ์ (Selection & Evaluation Management) คัดกรองเอกสาร ประเมินผลการสัมภาษณ์ การบริหารจัดการผู้สมัคร (Candidate Management) รวบรวมข้อมูล เอกสารพื้นฐาน ตรวจสอบข้อมูลและเอกสารของผู้สมัคร และการบริหารจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล (Progress Management and Results Analysis) การสร้างแผนผังการสรรหาบุคลากร ฟังก์ชั่นการรายงานการดำเนินงานต่างๆ และสรุปข้อมูลในรูปแบบ Dashboard รวมถึงฟังก์ชันการทำงานอื่นๆ (หากมี) ทั้งหมดที่อธิบายไว้ในเอกสารประกอบหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของ JOBCAN Recruitment

ข้อ 2. ขอบเขตการให้บริการ

  1. บริษัทตกลงให้บริการ และผู้ใช้งานตกลงใช้ระบบ JOBCAN Recruitment ตามข้อตกลงนี้ ในเวอร์ชันล่าสุดที่มีการอัพเดทเรียบร้อยแล้ว และ/หรือที่จะมีการอัพเดทต่อไป ทั้งนี้ ผู้ใช้งานตกลงและยอมรับว่า บริษัทไม่รับประกันว่าระบบ JOBCAN Recruitment จะไม่มีความชำรุดบกพร่องและ/หรือความบกพร่องใดๆ ในการให้บริการแก่ผู้ใช้งาน
  2. บริษัทไม่รับประกันในความสมบูรณ์ ถูกต้อง แน่นอน ครบถ้วน เป็นประโยชน์ และ/หรืออื่นๆ ของเนื้อหา คำสั่ง สคริปต์ใดๆ ในการใช้งานระบบและข้อมูลซึ่งได้มาจากผู้ใช้งานผ่านการระบบ JOBCAN Recruitment ต่อผู้ใช้งาน รวมถึงแต่ไม่จำกัดกรณีผู้ใช้งานนำข้อมูลในระบบ JOBCAN Recruitment ไปดำเนินอื่นนอกเหนือวัตถุประสงค์ตามข้อตกลงนี้
  3. ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือข้อบกพร่องจากการอัพเกรด หรือการใช้งานระบบ JOBCAN Recruitment ผู้ใช้งานตกลงแจ้งให้บริษัททราบโดยทันทีตามช่องทางที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทจะดำเนินการแก้ไขเพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้งานโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่อง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาดังกล่าว
  4. การให้บริการระบบ JOBCAN Recruitment ครอบคลุมการให้คำแนะนำการใช้งานระบบ JOBCAN Recruitment ตามมาตรฐานและแก้ไขข้อบกพร่อง แต่ทั้งนี้ไม่ครอบคลุมถึงปัญหาและ/หรือข้อบกพร่องที่เกิดจากใช้งานระบบ JOBCAN Recruitment ที่ผิดหรือนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด เช่น การนำข้อมูลผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นซึ่งอาจทำให้ระบบ JOBCAN Recruitment มีปัญหาหรือบกพร่องโดยตั้งใจ, ไม่ได้ตั้งใจ, หรือจากเหตุสุดวิสัย

ข้อ 3. ค่าบริการ

  1. รายละเอียดค่าบริการของระบบ JOBCAN Recruitment เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
  2. ผู้ใช้งานต้องชำระค่าบริการให้แก่บริษัทตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ ด้วยวิธีที่บริษัทกำหนด เช่น โอนเข้าบัญชีบริษัท ทั้งนี้ ระเบียบการชำระค่าบริการให้เป็นไปตามระเบียบของบริษัท โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
  3. ผู้ใช้งานตกลงชำระเงินค่าบริการให้บริษัท ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ และเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนเงินทั้งหมด (ถ้ามี)
  4. กรณีที่ผู้ใช้งานชำระค่าบริการไม่ตรงเวลาที่ระบุในใบแจ้งหนี้ บริษัทมีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 (สิบห้า) ต่อปี โดยคำนวณจากยอดค่าบริการที่ยังมิได้ชำระจนกว่าจะได้รับชำระครบถ้วน ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถเรียกเก็บตามใบแจ้งหนี้ได้ หรือกรณีที่บริษัทไม่สามารถหักเงินจากบัญชีของผู้ใช้งานโดยตรงได้ เนื่องจากเงินในบัญชีนั้นๆ ไม่เพียงพอ หรือเนื่องจากข้อผิดพลาดในส่วนของผู้ใช้งานหรือธนาคารของผู้ใช้งาน ถือว่าผู้ใช้งานไม่ชำระค่าบริการแก่บริษัท บริษัทมีสิทธิเรียกเก็บค่าปรับในการชำระค่าบริการล่าช้าได้
  5. ผู้ใช้งานตกลงและรับทราบว่าบริษัทไม่มีนโยบายคืนค่าบริการทุกรณี เว้นแต่เป็นกรณีบริษัทประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้ผู้ใช้งานได้รับความเสียหายจากการใช้งานระบบ JOBCAN Recruitment
  6. การปรับขึ้นราคาค่าบริการ บริษัทสามารถปรับเพิ่มค่าบริการ โดยบริษัทจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน

ข้อ 4. ระบบเชื่อมต่อ

  1. ระบบ JOBCAN Recruitment เป็นระบบที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อข้อมูลหรือเชื่อมต่อบริการที่บริษัทอื่นให้บริการได้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ระบบเชื่อมต่อ”) เช่น ระบบปฏิทินหรือเว็บประกาศสมัครงาน
  2. ในระบบเชื่อมต่อ ผู้ใช้งานจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล วิธีการกรอกข้อมูล และตรวจสอบว่าระบบการเชื่อมต่อได้อย่างถูกต้องด้วยตนเองทั้งสิ้น เนื่องจากระบบเชื่อมต่อดังกล่าวอาจไม่ได้ทำการเชื่อต่ออย่างถูกต้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้งาน บริษัทไม่รับประกันว่าระบบเชื่อมต่อจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์เสมอไป

ข้อ 5. ระบบสร้างประกาศสมัครงาน

  1. ระบบ JOBCAN Recruitment เป็นระบบที่ให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการสร้างประกาศรับสมัครงานที่เชื่อมต่อกับโปรแกรมค้นหาภายนอก (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ระบบสร้างประกาศสมัครงาน”)
  2. ในการใช้งานระบบสร้างประกาศสมัครงานผู้ใช้งานจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล วิธีกรอกข้อมูล และตรวจสอบว่าระบบสร้างประกาศสมัครงานได้อย่างถูกต้องด้วยตนเองทั้งสิ้น เนื่องจากระบบสร้างประกาศสมัครงานเป็นระบบช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างประกาศได้ง่ายขึ้นเท่านั้น บริษัทไม่รับประกันว่าเนื้อหาประกาศสมัครงานที่สร้างด้วยระบบประกาศสมัครจะถูกต้องครบถ้วนเสมอไป

ข้อ 6. ระบบรับ - ส่งอีเมล

  1. ระบบ JOBCAN Recruitment เป็นระบบที่ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการรับ – ส่ง Email ได้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ระบบรับ- ส่ง Email”)
  2. ระบบรับ -ส่ง Email ประกอบด้วยบริการรับ-ส่ง Email ที่พัฒนา ให้บริการ และบำรุงรักษาโดยบริษัท Kozo Keikaku Engineering หรือบริษัท SendGrid (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ให้บริการบุคคลที่สาม”) โดยผู้ใช้งานมีหน้าที่ตรวจสอบและยอมรับข้อตกลงในการใช้งานการจัดการบัญชีใช้งาน ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความปลอดภัย และข้อตกลงผู้ใช้งานOEM
    ก่อนใช้งานระบบรับ- ส่ง Email เมื่อผู้ใช้งานทำการใช้งานระบบรับ-ส่ง Email จะถือว่าได้ยอมรับข้อตกลงนี้ และข้อตกลงการใช้งานบริการจากบุคคลที่สามแล้ว

ข้อ 7. บริการซัพพอร์ต

  1. ผู้ใช้งานสามารถติดต่อบริษัทเพื่อสอบถามการใช้งานได้จากช่องทางที่บริษัทกำหนด เช่น โทรศัพท์ อีเมล หรือระบบแชทในเวลาที่กำหนด วันจันทร์ - วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09:00 น. - 18:00 น. โดยบริษัทมีสิทธิ์ไม่ตอบคำถามบางประเภท
  2. บริษัทไม่รับประกันในความสมบูรณ์ ถูกต้อง แม่นยำ แน่นอน เป็นประโยชน์ และอื่นๆ ของเนื้อหาในคำตอบ

ข้อ 8. การจัดการข้อมูล

  1. บริษัทจะเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในระบบ JOBCAN Recruitment ที่จัดเก็บไว้ด้วยความระมัดระวังตามหน้าที่ของผู้จัดการที่ดี
  2. บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลหรือจัดส่งข้อมูลผู้ใช้งานที่จัดเก็บไว้ให้แก่บุคคลภายนอกใดๆ เว้นแต่ในกรณีที่กำหนดไว้ต่างหากจากข้อตกลงนี้และในกรณีดังต่อไปนี้
    1. บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเปิดเผยหรือจัดให้มีขึ้นตามกฎหมายหรือรัฐบาล
    2. บริษัทได้รับความยินยอมในการเปิดเผยจากผู้ใช้งานหรือมีข้อตกลงยกเว้น
    3. บริษัทกำหนดให้ผู้ใช้งานปฏิบัติตามหน้าที่ภายใต้ข้อตกลงนี้
    4. ข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นอันเกี่ยวเนื่องกับข้อตกลงของบริการต่อผู้ใช้งาน
    5. ในกรณีอื่นใดที่มีความจำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางกฎหมายที่สำคัญ
  3. บริษัทอาจสร้างข้อมูลทางสถิติจากข้อมูลผู้ใช้งานแต่ละรายโดยไม่ระบุตัวตน (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ข้อมูลสถิติ”) จากข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้ในระบบ JOBCAN Recruitment ของผู้ใช้งาน ผู้ใช้งานยอมรับและตกลงว่าบริษัทอาจใช้ข้อมูลสถิติสำหรับการให้บริการและบริการอื่นใดของบริษัทและบริษัทอาจจัดหาข้อมูลทางสถิติให้แก่บุคคลภายนอก
  4. แม้บริษัทใช้ข้อมูลทางสถิติในขอบเขตที่กำหนดไว้ในวรรคก่อน หากผู้ใช้งานหรือบริษัทได้รับคำร้องเรียนหรือประการอื่นใดจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้งานจะต้องจัดการและแก้ไขข้อพิพาทด้วยความรับผิดชอบของตน บริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น

ข้อ 9. การประมวลข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งสองฝ่ายตกลง ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อวัตถุประสงค์แห่งข้อตกลงนี้ว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” ให้หมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามความหมายของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ ให้รวมถึงพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง กฎ ระเบียบและประกาศที่ออกตามความในกฎหมายดังกล่าวไม่ว่าที่มีอยู่ ในปัจจุบันหรือที่จะประกาศใช้ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ชื่อ ที่อยู่ อีเมล์หมายเลขโทรศัพท์และ/หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคล ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลอื่น ๆ ของบุคคลหรือเกี่ยวกับบุคคลซึ่งได้รับการปกป้องไม่ให้เปิดเผยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
  2. ในระหว่างปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ ผู้ใช้งานจะมีการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ของข้อตกลงนี้ บริษัทจึงหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน โดยตกลงที่จะปฏิบัติดังนี้
    1. ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของหน่วยงานผู้มีอำนาจทุกประการ
    2. บริษัทมีสิทธิใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมอบจากผู้ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้งานระบบ JOBCAN Recruitment เท่านั้น เว้นแต่มีการกำหนดเป็นอย่างอื่นร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร
    3. จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ทั้งในด้านการบริหารจัดการ ทางเทคนิค และทางกายภาพเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในระบบ JOBCAN Recruitment โดยมิชอบ
    4. กรณีเกิดข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล เสียหาย และสูญหายจากระบบ JOBCAN Recruitment บริษัทตกลงแจ้งให้ผู้ใช้งานเป็นลายลักษณ์อักษรโดยทันที พร้อมทั้งแจ้งวิธีการป้อง แก้ไขให้ผู้ใช้งานทราบด้วยวิธีที่สมเหมาะ
    5. ไม่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการเปิดเผยจากผู้ใช้งาน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนไว้เกินกว่าระยะเวลาข้อตกลง ที่หรือเกินกว่าระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามข้อตกลงนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปได้ในกรณีที่จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ตามกฎหมายหรือมีกฎหมายให้อำนาจไว้หรือได้รับความยินยอมเพิ่มเติมจากผู้ใช้งานหรือมีสิทธิเก็บรักษาไว้ตามข้อกำหนดของข้อตกลงที่บริษัทมีต่อบุคคลที่สาม ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว
  3. ผู้ใช้งานตกลงให้ความร่วมมือตามสมควรเมื่อได้รับคำร้องขอจากบริษัทในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสามารถดำเนินการตามที่ผู้ใช้งานในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือหน่วยงานผู้มีอำนาจร้องขอในเรื่องที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  4. ผู้ใช้งานสามารถแจ้งขอรายงานสถานะการจัดเก็บรักษาและจัดการข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทได้ปีละ 1 (หนึ่ง) ครั้ง

ข้อ 10. การเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้

  1. เว้นแต่กรณีบริษัทระบุไว้เป็นอื่น บริษัทไม่รับประกันต่อผู้ใช้งานว่าบริษัทเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้ในระบบ JOBCAN Recruitment ผู้ใช้งานจะต้องเก็บรักษาและสำรองข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้ด้วยความรับผิดชอบของตนเอง
  2. ในกรณีที่เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ของบริษัท และ/หรือในระบบ JOBCAN Recruitment บริษัทอาจลบข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้จากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทและ/หรือในระบบ JOBCAN Recruitment หลังจากระยะเวลาที่บริษัทระบุไว้ต่างหากผ่านพ้นไปนับจากวันที่ข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้ได้รับการบันทึกไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
  3. ในกรณีที่ข้อตกลงนี้สิ้นสุดลง บริษัทอาจลบข้อมูลของผู้ใช้งานที่บันทึกไว้ในวันถัดจากวันที่ข้อตกลงสิ้นสุดลง

ข้อ 11. การรักษาความลับ

  1. เพื่อการดำเนินตามข้อตกลงนี้บริษัทและผู้ใช้งานอาจเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับที่ทั้งสองฝ่ายสองฝ่ายส่งมอบให้แก่กันถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับและจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองและห้ามเปิดเผยต่อบุคคลหรือองค์กรภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากแต่ละฝ่าย และทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเก็บรักษาข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดหรือบางส่วน
  2. “ข้อมูลที่เป็นความลับ” คือ ข้อมูลใดไม่ว่าจะอยู่ในลักษณะ และรูปแบบใด โดยรวมถึงเทคโนโลยี เว็บไซต์ คำสั่ง สคริปต์ แผนงานธุรกิจ ข้อเสนอ ข้อตกลง บันทึกข้อตกลง รวมถึงเอกสารต่างๆ วิธีการดำเนินงาน ความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน (Know-how) ข้อกำหนดรายละเอียด (Specifications) ข้อมูลดิบ กราฟ แผนภูมิ ตาราง ข้อมูลของทั้งสองฝ่าย ทรัพย์สิน และอื่นๆ ที่คล้ายกัน รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่แต่ละฝ่ายประสงค์จะเก็บไว้เป็นความลับ รวมถึงข้อมูลที่แต่ละฝ่ายได้เปิดเผยต่อกันไม่ว่าด้วยวาจาอันเกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้ไม่ว่าจะมีการระบุหรือไม่ว่าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับ เพื่อประโยชน์แห่งข้อตกลงนี้ ข้อมูลที่เป็นความลับรวมถึงข้อมูลธรรมดาในทางธุรกิจทราบได้ว่าเป็นข้อมูลลับ และรวมถึงข้อมูลความลับทางการค้าตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
  3. ภาระหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายในการรักษาความลับตามข้อตกลงนี้จะไม่รวมถึงการเปิดเผยหรือใช้ข้อมูลลับที่มีลักษณะ ดังนี้
    11.3.1 เป็นข้อมูลที่รู้กันโดยทั่วไปในขณะทำข้อตกลงนี้ หรือเป็นข้อมูลสาธารณะ หรือกลายเป็นข้อมูลสาธารณะภายหลังจากการทำข้อตกลงนี้โดยไม่ได้เกิดจากการกระทำผิดข้อตกลงนี้โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    11.3.2 เป็นข้อมูลที่แต่ละฝ่ายทราบอยู่ก่อนแล้ว/โดยชอบด้วยกฎหมายจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ นอกจากที่ได้รับจากผู้เปิดเผย
    11.3.3 เป็นข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยจากบุคคลที่สาม ซึ่งข้อมูลลับดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้ภาระผูกพันในการต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับ
    11.3.4 เป็นข้อมูลที่แต่ละฝ่ายเป็นผู้พัฒนาขึ้นเองโดยไม่ได้อาศัยข้อมูลที่เป็นความลับเปิดเผยให้ตามข้อตกลงนี้
    11.3.5 เป็นข้อมูลที่จำเป็นต้องเปิดเผยตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งศาล หรือหน่วยงานราชการใดๆ ทั้งนี้ แต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือ เพื่อให้ฝ่ายดังกล่าวมีโอกาสคัดค้าน หรือจำกัดการเปิดเผยข้อมูลลับก่อน และจะเปิดเผย “ข้อมูลที่เป็นความลับ” แต่เฉพาะที่จำเป็นต้องเปิดเผยตามกฎหมายเท่านั้น และ/หรือตามที่ได้รับการร้องขอ และจะใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อปฏิบัติต่อ “ข้อมูลที่เป็นความลับ” ที่จำเป็นต้องเปิดเผยอย่างเป็นความลับด้วย

ข้อ 12. การยกเลิกข้อตกลง

  1. หากมีกรณีดังต่อไปนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน บริษัทจะระงับการใช้บริการของผู้ใช้งานตามระยะเวลาที่บริษัทถือว่าเหมาะสม และ/หรือ เลิกข้อตกลงนี้โดยบอกกล่าวเป็นหนังสือ
    1. เมื่อผู้ใช้งานปฏิบัติผิดข้อตกลงข้อใดข้อหนึ่ง และมิได้ดำเนินการแก้ไขภายระยะเวลาที่เหมาะสมเมื่อได้รับการตักเตือนจากบริษัท ให้ถือว่าเป็นการยกเลิกข้อตกลงฉบับนี้โดยทันที
    2. ทรัพย์สินของผู้ใช้งานอยู่ภายใต้การอายัด การอายัดชั่วคราว การสละสิทธิ์ การสละสิทธิ์โดยการขายทอดตลาด การสละสิทธิ์เนื่องจากไม่จ่ายภาษีหรือการสละสิทธิ์อื่นใดโดยคำสั่งทางการ
    3. ผู้ใช้งานยื่นคำร้องหรือให้มีผู้ยื่นคำร้องเพื่อให้ล้มละลาย ฟื้นฟูกิจการ หรือการปลดเปลื้องอื่นใดภายใต้กฎหมายล้มละลาย หรือ ตราสาร หรือ ตั๋วเงินใดๆที่ออกโดยผู้ใช้งานนั้นไม่สามารถขึ้นเงินได้ หรือผู้ใช้งานไม่สามารถชำระเงินได้ตามหน้าที่
    4. ผู้ใช้งานลดปริมาณทุนจดทะเบียนหรือผ่านมติการล้มละลายในประชุมสามัญผู้ถือหุ้น หรือมีคำสั่งศาลให้ผู้ใช้งานล้มละลาย
    5. ผู้ใช้งานถูกออกคำสั่งระงับกิจการหรือคำสั่งห้ามตามกฎหมาย หรือใบอนุญาตและ/หรือการอนุญาตให้ดำเนินกิจการของผู้ใช้งานถูกยกเลิกหรือระงับโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ใช้งานระงับ ยกเลิก หรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน
    6. นอกเหนือจากข้อกำหนดข้างต้น ให้รวมถึงเหตุผลอันสมควรซึ่งต้องคงไว้ซึ่งข้อเรียกร้องต่อผู้ใช้งาน
    7. ผู้ใช้งาน เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของผู้ใช้งานละเมิดกฎหมายหรือข้อกำหนด
    8. บริษัทแม่ของผู้ใช้งาน (ตามระบุไว้ในข้อ 2 อนุมาตรา 4 ของพรบ. บริษัทแห่งประเทศญี่ปุ่น) หรือบุคคลอื่นใดผู้ซึ่งควบคุมการบริหารจัดการของผู้ใช้งานในทิศทางเดียวกับที่บริษัทแม่เปลี่ยนแปลง หรือการบริหารจัดการของผู้ใช้งานซึ่งถูกควบคุมโดยบริษัทหรือบุคคลเร็วๆนี้
  2. หากบริษัทระงับการใช้บริการของผู้ใช้งานตามวรรคที่กล่าวมาก่อนหน้า ผู้ใช้งานจะต้องจ่ายค่าบริการในระยะเวลาที่ระงับบริการเช่นว่านั้นด้วย
  3. หากเกิดกรณีตามข้อ 11. กรณีหนึ่ง หรือ มากกว่า ให้หน้าที่ในการชำระเงินที่ผู้ใช้งานมีต่อบริษัทถึงกำหนดและต้องชำระทันที

ข้อ 13. การสิ้นสุดข้อตกลงโดยผู้ใช้งาน

  1. ผู้ใช้งานอาจบอกเลิกข้อตกลงนี้ได้ โดยแจ้งให้บริษัททราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรในแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนดเป็นระยะเวลา 1 (หนึ่ง) เดือน ซึ่งเมื่อถึงกำหนดที่ผู้ใช้งานแจ้งในแบบฟอร์มจะถือว่าข้อตกลงนี้สิ้นสุดลงโดยทันที
  2. ผู้ใช้งานมีหน้าที่ต้องชำระค่าบริการที่เกิดขึ้นจนถึงวันสิ้นสุดข้อตกลงให้ครบถ้วน แม้ภายหลังสิ้นสุดข้อตกลงไปแล้ว

ข้อ 14. การชดเชยความเสียหาย

  1. บริษัทไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ใช้งานจากการให้บริการระบบจัดการใบสมัครงาน JOBCAN Recruitment เว้นแต่กรณีที่เกิดจากความตั้งใจหรือความประมาทร้ายแรงของบริษัทเอง หากความเสียหายเกิดจากความตั้งใจหรือความประมาทร้ายแรงของบริษัทเอง บริษัทจะชดเชยค่าเสียหายให้เป็นจำนวนไม่เกินค่าบริการของเดือนที่เกิดความเสียหาย เว้นแต่กรณีที่ผู้ใช้งานใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  2. บริษัทไม่รับผิดชอบความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานระบบจัดการใบสมัครงาน JOBCAN Recruitment หากผู้ใช้งานเป็นผู้ใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ข้อ 15. เงื่อนไขอื่นๆ

  1. แม้ว่าข้อกำหนดบางประการของข้อตกลงนี้จะตกเป็นโมฆะ ให้มีผลเป็นโมฆะแค่ส่วนนั้น ส่วนข้อตกลงอื่นๆ ทั้งหมด นอกเหนือจากข้อกำหนดที่เป็นโมฆะดังกล่าว จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปได้
  2. ผู้ใช้และบริษัทไม่ต้องรับผิดต่อความล่าช้าในการปฏิบัติตามข้อผูกพันหรือความล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อผูกพันเนื่องจากเกิดเหตุการณ์สุดวิสัย เช่น อัคคีภัย การระเบิด น้ำท่วม อุบัติเหตุ การนัดหยุดงาน การจลาจล ความวุ่นวายกลางเมือง ข้อพิพาททางอุตสาหกรรม การก่อการร้าย การล็อกดาวน์เนื่องจากโรคระบาดหรือเหตุผลอื่นใด โดยฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบทันทีที่เกิดเหตุเหตุสุดวิสัยและผลกระทบต่อความสามารถในการปฏิบัติตามภาระหน้าที่และจะต้องใช้ความพยายามตามสมควร เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดบุคคลที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการขยายเวลาสำหรับการดำเนินการตามข้อผูกพันของตนภายใต้ข้อตกลงนี้เป็นระยะเวลาเท่ากับระยะเวลาของความล่าช้าดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์สุดวิสัยยังคงมีอยู่เป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานกว่า 3 (สาม) เดือน คู่ข้อตกลงอีกฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกข้อตกลงได้ โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร
  3. ข้อตกลงนี้จะอยู่ภายใต้บังคับและถูกตีความตามกฎหมายของประเทศไทย ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันระหว่างข้อความในข้อตกลงฉบับภาษาอังกฤษและฉบับแปล ให้ถือเอาข้อความฉบับภาษาอังกฤษเป็นหลัก
  4. คู่ข้อตกลงทั้งสองฝ่ายยินยอมและให้ใช้เขตอำนาจศาลเฉพาะซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครต่อบรรดาการกระทำหรือกระบวนการพิจารณาทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดเหล่านี้

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2023

ติดต่อเรา
02-107-1828
ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9:00 - 18:00